วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

14,000 บาท เป็นเศรษฐีร้อยล้านได้


เขียนโดย สำนักงานบัญชี   
“..... การเก็บเงินปีละ 14,000 บาท จะได้เป็นเศรษฐีร้อยล้านน่าสนใจมาก แต่ถ้าทำตามวิธีการของคุณ ต้องรอถึง 40 ปี ทำให้ใจห่อเหี่ยว .....”
“..... ต้องรอถึง 40 ปีค่อยเป็นมหาเศรษฐี ดีไม่ดีตายกลายเป็นผีไปแล้ว คุณมีเคล็ดลับช่วยให้ร่ำรวยเร็วขึ้นมั้ย   .....”
การสร้างความร่ำรวยต้องใช้เวลา ภายในเวลาอันสั้นจะไม่เห็นผล คนส่วนหนึ่งรู้คำตอบแล้วว่า ถ้าเก็บเงินลงทุนแบบนี้ 40 ปี จะได้เงินร้อยกว่าล้าน จึงทายว่า 10 ปีน่าจะได้สัก 5 ล้าน บางคนทายว่าประมาณ 1 ล้าน แต่ว่าคำตอบที่คำนวณได้น่าแปลกใจเหมือนกันคือได้แค่ 360,000 บาท เมื่อเทียบกับลงทุน 40 ปี ได้ร้อยกว่าล้าน แตกต่างกันถึง 300 กว่าเท่า
ยังดีที่มีคนตั้งคำถามแบบนี้ ไม่อย่างนั้นมีผู้ทำตามวิธีการนี้ เก็บเงินไปลงทุนปีละ 14,000 บาท นำไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนปีละ 20% นึกว่านานเข้าคงร่ำรวยเป็นเศรษฐี คิดไม่ถึงว่าแค่สิบปีมีเงินสะสมแค่สามแสนหก คงเข้าใจว่าถูกหลอกซะแล้ว
ต้องเข้าใจว่านี่เป็นการ “วิ่งมาราธอน” ไม่ใช่ “วิ่งร้อยเมตร” สิ่งที่ต้องเผชิญคือน้ำอดน้ำทน ไม่ใช่แรงฮึดแค่อึดใจเดียว การลงทุนสร้างเนื้อสร้างตัว เงื่อนไขข้อแรกอยู่ที่เวลา คุณต้องผ่านการรอคอยจึงจะเห็นผล เรามาดูยอดเงินสะสมจากการลงทุนปีละ 14,000 บาท โดยได้รับผลตอบแทนปีละ 20% ทบต้นไปเรื่อย ๆ ในปีต่าง ๆ
  • ปีที่ 5  ยอดเงินสะสม  =  100,000 บาท
  • ปีที่ 10  ยอดเงินสะสม  =  360,000 บาท
  • ปีที่ 15  ยอดเงินสะสม  =  1,010,000 บาท
  • ปีที่ 20  ยอดเงินสะสม  =  2,610,000 บาท
  • ปีที่ 25  ยอดเงินสะสม  =  6,610,000 บาท
  • ปีที่ 30  ยอดเงินสะสม  =  16,550,000 บาท
  • ปีที่ 35  ยอดเงินสะสม  =  41,280,000 บาท
  • ปีที่ 40  ยอดเงินสะสม  =  102,810,000 บาท
นี่เป็นข้อสังเกตที่ว่าทำไมหาเงินเพิ่มอีก 10 ล้านบาท ยังง่ายกว่าหาเงิน 1 ล้านบาทแรกมากนัก
สำหรับคนที่ก่อร่างสร้างตัวด้วยมือเปล่า คงมีประสบการณ์อย่างนี้มาแล้ว หมื่นแสนเรื่องราวตอนเริ่มต้นนั้นลำบากที่สุด ตอนแรกเริ่มกว่าจะหาเงินได้ช่างลำบากเลือดตาแทบกระเด็น ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเงินทองหายากหาเย็นถึงเพียงนี้ แต่หลังจากประสบความสำเร็จ เงินทองก็ไหลมาเทมา เรียกว่าอยากจะหยุดยั้ง ก็ยั้งไว้ไม่อยู่ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเงินทองกลายเป็นหาง่ายเพียงนี้
ทุกคนอยากจะหยิบเงินล้านที่สอง หรือหยิบเงินสิบล้านแบบง่าย ๆ ไม่อย่างนั้นก็ภาวนาให้เงินไหลมาเทมา ปัญหาอยู่ที่ก่อนจะหยิบเงินล้านที่สอง ต้องมีเงินล้านแรกก่อน ทำอย่างไรจึงจะได้เงินล้านแรก
เศรษฐีส่วนใหญ่สร้างเนื้อสร้างตัวจากเงินก้อนเล็ก ๆ ผ่านวันเวลาอันยาวนาน ค่อย ๆ เก็บสะสม ตอนแรกเป็นเงินก้อนเล็ก ๆ แทบไม่น่าเชื่อ แต่ความสำเร็จเรียงร้อยจากความสำเร็จเล็ก ๆ ทั้งหลาย สะสมพอกพูนเป็นสมบัติกองโต
แสดงให้เห็นว่า “เวลา” มีความสำคัญต่อการลงทุนสร้างฐานะ ความ “อดทน” เป็นเงื่อนไขที่จำเป็นต้องมี และไม่ใช่อดทนไม่กี่เดือนหรือไม่กี่ปี ยิ่งอดทนยี่สิบสามสิบปี หรือสี่สิบห้าสิบปี พลังที่จะสร้างความร่ำรวยก็ยิ่งใหญ่โตมโหฬาร
แต่ทุกวันนี้พวกเราตกอยู่ภายใต้กระแสของ “อาหารจานด่วน” ทุกเรื่องเน้นที่ความรวดเร็วและประสิทธิผล เวลาทานอาหารก็รับประทานอาหารแบบฟาสต์ฟู้ด ส่งจดหมายก็ใช้บริการด่วนพิเศษ ขับรถก็ต้องขึ้นทางด่วน แม้แต่การศึกษาก็ยังใช้วิธีเรียนลัด ผู้คนยิ่งมายิ่งหวังผลทันตาเห็น กลายเป็นรีบร้อนเร่งด่วน ขาดซึ่งความอดทน แม้แต่การลงทุนสร้างฐานะก็ไม่มีข้อยกเว้น
ถ้าเป็นกิจกรรมอย่างอื่น อาจเร่งความเร็วได้ แต่การลงทุนสร้างฐานะเร่งเร็วไม่ได้ เพราะ “เวลา” เป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับการสร้างตัว ยิ่งเร่งเร็วยิ่งไม่บรรลุเป้าหมาย ซึ่งส่วนมากจะ “เลิกล้มกลางคัน” เมื่อเจอกับเงื่อเวลา ก็เกิดความท้อถอย พาลขายหุ้น ขายอสังหาริมทรัพย์ เดินออกจากตลาดหุ้น หารู้ไม่ว่าการขาดความอดทนและความตั้งใจ ยากจะพบกับความสำเร็จได้
การลงทุนสร้างฐานะต้องใช้เวลา ถ้าหากไม่ทำความเข้าใจอย่างถูกต้อง ก็จะเกิดความร้อนใจ พอร้อนใจก็ทำเรื่องเสี่ยง ๆ ฉะนั้นแทนที่จะพบกับความสำเร็จ กลับกลายเป็นล้มเหลว ไม่ว่าการสร้างสมความร่ำรวยก็ดี การสั่งสมประสบการณ์ก็ดี ไม่สามารถบรรลุได้ในเวลาชั่วข้ามคืน หากแต่ต้องใช้เวลาเข้าแลกมา คนที่อยากรวยทางลัด ได้แต่ใช้วิธีสุ่มเสี่ยงหรือว่าเล่นพนัน หรือทำธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง ๆ แต่ผลของมันคือสิ้นเนื้อประดาตัว จะช้าหรือเร็วเท่านั้น
คนที่อยากรวยเร็วไม่เหมาะกับการลงทุนสร้างฐานะ เพราะการลงทุนแบบช้าหน่อยแต่ชัวร์แน่นอน พลังที่สร้างฐานะจะใหญ่โตกว่าที่พวกเราคาดคิดไว้ ขณะเดียวกันก็ต้องใช้เวลานานกว่าที่พวกเรานึกเอาไว้ด้วยเช่นกัน ลองนึกดูว่าคุณแม่ต้องผ่านการอุ้มท้องกว่าสิบเดือน ชาวนาปลูกข้าวก็ต้องรอน้ำรอฝน ต้นข้าวจึงจะออกรวงได้ การพอกพูนของเงินทองก็เหมือนกับการเติบโตของชีวิต ผ่านวันผ่านเดือนผ่านปี ได้รับดอกเบี้ยทบต้น ไม่ใช่ถึงเป้าที่วางไว้ในเวลาแค่ชั่วข้ามคืน นักลงทุนบางคนทำกำไรมหาศาลในชั่วข้ามคืน แต่ก็สิ้นเนื้อประดาตัวเพียงชั่วข้ามคืนได้เช่นกัน
(อ้างใน thaivi.com)

วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

ความรักกับเงินตรา


   

  1. ทำข้อตกลงเรื่องการจัดสรรเงิน
    ถ้าจะให้แฟร์ควรคุยกันไปเลยว่าเงินที่ฝ่ายหญิงหามาได้จะเป็นเงินเก็บส่วนตัว ส่วนเงินที่ฝ่ายชายให้มาผู้หญิงจะจัดการบริหารให้ลงตัว ถ้าไม่พอจะควักออกให้ หรือตกลงกันว่า แบ่งครึ่งหนึ่งเป็นกองกลางสำหรับใช้จ่ายในบ้าน อีกครึ่งหนึ่งเขาเก็บไว้ ในกรณีที่คุณมีเงินเก็บแล้วไม่รู้ว่าจะบอกฝ่ายชายดีหรือไม่ แนะว่าควรดูว่าคู่ของเราเขาเป็นคนที่แฟร์เรื่องเงิน และพร้อมที่จะดูแลเราไหม? มีความเป็นสุภาพบุรุษทางการเงินมากน้อยแค่ไหน? ถ้าเป็นสุภาพบุรุษอาจพูดตรงๆ ได้ แต่ถ้าเขาไม่แฟร์ คุณไม่ควรบอกเขาอย่างยิ่งว่ามีเงินเก็บ อย่าลืมว่าพฤติกรรมการใช้สตางค์ของผู้ชายคือ ชอบซื้ออะไรที่เป็นชิ้นใหญ่ๆ แตกต่างจากผู้หญิงเราที่ชอบช็อปปิ้งสิ่งของเล็กๆ ถ้าเขารู้ว่ามีเงินเก็บอาจเป็นการเสี่ยงต่อเงินก้อนนั้นไปโดยปริยาย
  2. รับรู้รายรับและรายจ่ายของเขาในทุกๆ ด้าน
    เพราะเมื่อตกลงแต่งงานกันแล้ว ย่อมถือว่าเสี่ยงไปมากกว่าครึ่ง   เวลาทำธุรกรรมทุกอย่างต้องทำร่วมกัน ฉะนั้  นเมื่อ แต่งงานกันแล้ว ผู้หญิงควรรู้ทุกเรื่องของฝ่ายชาย เช่น รู้บัญชีเงินเข้า - ออกของครอบครัว หรือฝ่ายชายได้เงินเดือนเท่าไร มีทรัพย์สินอะไรบ้าง จะได้ไม่ต้องเจอความเสี่ยงภายหลัง 
  3. วางแผนการเงินตลอดปี 
    ดูว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง? เช่น ค่าเทอมลูกหรือค่าเดินทางท่องเที่ยว ฯลฯ การกำหนดรายจ่ายล่วงหน้า จะทำให้ไม่ใช้จ่ายเงินเกินตัว และยังสามารถวางแผนการออมเงินและจุดประสงค์ในการใช้เงินได้อีกด้วย
  4. หาเวลาคุยกันทุกเดือน
    เพื่อประเมินว่าแผนการใช้เงินที่กำหนดไว้นั้นเป็นไปตามเป้าหมายมากน้อยแค่ไหน
  5. บริหารเงินให้งอกเงย
    ไม่ว่าจะมีเงินเก็บเท่าไร ต้องนึกถึงการบริหารเงินนั้นว่าสามารถสร้างรายได้ในอนาคตได้หรือไม่ เช่น ได้ดอกเบี้ยจากธนาคาร ได้กำไรจากหุ้น ยิ่งเวลาในการฝากนานหรือมีการลงทุนนานขึ้น ผลตอบแทนยิ่งทวีคูณ
  6. วางแผนสำรองทางการเงินเผื่อเรื่องฉุกเฉิน
    วิธีนี้ทำให้ชีวิตคู่ในอนาคตของคุณราบรื่นขึ้น

ถ้าเราสามารถวางแผนเรื่องเงินกับความรักไปพร้อมๆ กันได้ นั่นละคือการใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุข และเป็นการจัดการที่ลงตัวที่สุด

ข้อมูลจาก : sanook.com

เงิน กับ เวลา



     “ไม่มีเวลากับไม่มีเงินจะเลือกอะไร หลายคนคงบอกว่าไม่อยากเลือกทั้งคู่ เพราะถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะมีทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น ชีวิตก็คงจะมีความสุขอย่างมาก แต่ในความเป็นจริง ท่ามกลางความเร่งรีบของสังคมเมือง และการแก่งแย่งแข่งขันทางธุรกิจ มีหัวหน้าครอบครัวหลายๆท่านต้องจดจ่ออยู่กับการทำงานหนัก ใช้เวลาแทบที่จะมีอยู่ทั้งหมดไปในห้องทำงาน บางคนก็มุ่งมั่นทำงานจนเห็นที่ทำงานกลายเป็นห้องกินห้องนอน ไม่มีเวลาแม้ที่จะไปกินอาหารกลางวันซักมื้อ ทั้งหมดก็เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีและความมั่นคงของครอบครัว คำถามต่อมาก็คือว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้น มันทำให้ครอบครัวของเรามีความสุขมากขึ้นจริงหรือเปล่า หัวหน้าครอบครัวหลายๆท่านก็อึกอักที่จะตอบคำถามนี้ เพราะจริงๆแล้วสิ่งที่ภรรยาและลูกๆของท่านเรียกร้องอาจจะไม่ใช่ตัวเงิน แต่เป็นตัวคุณเองต่างหาก นั้นคือการได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน ทานอาหารร่วมกัน ทุกโอกาสแบบพร้อมหน้าพร้อมตากัน รวมถึงการดูแลคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว มากกว่าการมีเงินทองมากมาย แต่หาความสุขจากเงินทองเหล่านั้นไม่ได้เลย เนื่องจากไม่มีเวลาที่จะอยู่ร่วมกัน อย่างเพียงพอ แต่จะว่ากันตรงๆแล้ว ถ้าเราไม่ใช้เวลาไปกับการทำงานหนัก ไม่ทุ่มเทกับการทำงาน และการเก็บหอมรอบริบ แล้วเราจะมีตัวเงินเพื่อใช้เป็นเครื่องมือหาความมั่นคงและสร้างความสุขให้กับครอบครัวได้อย่างไร ฉะนั้นในบทความตอนนี้ ผู้เขียนจะขอเสนอแนะวิธีที่จะทำให้คุณๆทั้งหลายไม่ต้องตกอยู่ในภาวะต้องเลือกระหว่างเวลากับเงิน
1.ทำงานที่มีอยู่ให้เต็มที่ แต่ไม่ต้องถึงกับทุ่มเททุ่มกายจนหมดใจ เพราะเมื่อไหร่ก็ตาม ที่คุณพาตัวเองเข้าไปผูกติดกับงาน แน่นอนเวลา 24 ชั่วโมง ในแต่ละวันของคุณก็จะหายไปกับการทำงาน จนชีวิตขาดสมดุล สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันและเท่ากันก็คือ เวลา 24 ชั่วโมงใน 1 วัน ฉะนั้น เราต้องบริหารให้ดีทั้งการทำงาน และก็ยังต้องมีเวลาพักผ่อนและเวลาส่วนตัวเหมือนกัน เพื่อให้กิดความสมดุลระหว่างเงินและเวลา
2.เวลาทำงานกับเวลาพักผ่อนต้องแยกจากกัน หลายครั้งที่เราใช้เวลาทำงานกับและเวลาพักผ่อนเป็นเวลาเดียวกัน ซึ่งหลายๆคนคงจะเคยที่จะ ทานอาหารไปด้วยและทำงานไปด้วย กำลังฟิตเนสอยู่แต่คุยเรื่องงานไปด้วย ใช้เวลาวันว่างของครอบครัวขอตัวปลีกไปประชุม กำลังเดินเล่นอยู่บนชายหาดอยู่ แต่พอรับโทรศัพท์ ก็ต้องรีบขับรถกลับทันที พฤติกรรมเหล่านี้ กำลังบ่งบอกว่าคุณแบ่งเวลาให้กับงานและแบ่งเวลาให้กับตัวเอง ในสัดส่วนที่ขาดความยุติธรรม
3.เมื่อทำงานเต็มที่ ก็ต้องหาเวลาพักผ่อนเต็มที่ เช่นกัน ทุกครั้งที่โปรเจ็กต์ล่าสุดของคุณประสบความสำเร็จ หรืองานที่คุณใช้เวลาทุ่มเทกับมันจนบรรลุเป้าหมาย หรือไม่ว่าจะเป็นงานที่คุณต้องใช้ความคิด การวางแผน จนต้องอยู่ในที่ทำงานแบบไม่เห็นเดือนเห็นตะวันได้เข้าตาเจ้านายของคุณ คุณก็ต้องหาเวลาเพื่อมอบรางวัลให้แก่ตัวคุณองและครอบครัวด้วย เมื่อหักโหมทำงานหนักมานาน การหาเวลาอยู่กับตัวเองและครอบครัวเพื่อสร้างความสุขก็ถือเป็นการชาร์จแบตเตอรี่ที่ดีวิธีหนึ่ง
4.หาวิธีออมเงินอย่างชาญฉลาด บางครั้งสาเหตุที่ทำให้คุณต้องทำงานอย่างหนัก จนแทบจะไม่มีวลาให้กับตัวเองและครอบครัว ก็เนื่องมาจากการเก็บออมแบบไม่ถูกวิธี ซึ่งก็หมายถึงการออมที่ไม่ได้ทำให้ค่าของเงินเพิ่มขึ้นมา แต่ถ้าคุณจะหาวิธีให้เงินทำงานแทนตัวของคุณเองได้ โดยที่ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาเท่ากับที่คุณต้องทำงานหนัก และคุณมีเวลาให้กับตัวเองและครอบครัวมากขึ้นก็ดีไม่น้อย ฉะนั้นวิธีการออมเงิน โดยผ่านตราสารต่างๆก็น่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใครยังไม่เคยลองดูก็น่าจะลองศึกษาดู
     เมือไหร่ก็ตามที่คุณบริหารเวลาและเงินให้เกิดสมดุลได้แล้ว ชีวิตคุณและครอบครัวก็น่าจะพบความสุขได้อย่างแท้จริง และนี่ก็อาจจะเป็นคำตอบของชีวิตที่คุณเรียกหาก็ได้

โดย คุณวีระชาติ ชุตินันท์วโรดม
ที่มา TSI Investment Wiki
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
     http://www.tsi-thailand.org/
     http://www.set.or.th/


วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

ฤกษ์คลอดบุตรปี2555


ฤกษ์คลอดบุตรปี 2554 ฤกษ์คลอดบุตรปี2555


 

แม้เรื่องของการเกิดหรือการคลอดลูกนั้นเป็นกฎธรรมชาติ แต่ก็มีคุณแม่จำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถคลอดลูกตามธรรมชาติได้ กล่าวคือต้องผ่าคลอดนั่นเอง ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่หลายคนที่หาฤกษ์ในการผ่าตัดคลอด โดยเชื่อว่าจะได้เป็นการเลือกวันที่ดีสำหรับลูกน้อยของคุณ ทาง อาจารย์ฐิติกาญจน์ บทมูล นักพยากรณ์จาก horoworld จึงได้คัดสรรค์ ฤกษ์คลอดบุตรปี 2555 มาให้ดังนี้



การหาฤกษ์ในผ่าตัดคลอดของปี 2555                                        
วันที่ควรจะให้ฤกษ์การผ่าตัดคลอดบุตร ควรคำนึงถึงดังนี้                                        
                                                            
1. วันที่ดีคือ ปีนัตร ปีเถาะ เริ่ม16 เมษายน 2554 - 16 เมษายน 2555                                                            
วันที่ดี คือ     วันศุกร์    เป็นวันธงไชย                                                    
วันที่ดี คือ     วันศุกร์    เป็นวันอธิบดี                                                    
วันที่ไม่ดี คือ วันพฤหัสบดี เป็นวันอุบาทว์                                                    
วันที่ไม่ดี คือ วันอาทิตย์    เป็นวันโลกาวินาศ                                                    
วันอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ สามารถทำการได้พอใช้                                                            
                                                            
2. วันที่ดีของ ปีนักษัตร ปีมะโรง เริ่ม 16 เมษายน 2555 - 16 เมษายน 2556                                                            
วันที่ดีคือ     วันจันทร์    เป็นวันธงไชย                                                    
วันที่ดีคือ     วันเสาร์    เป็นวันอธิบดี                                                    
วันที่ไม่ดี คือ วันอาทิตย์    เป็นวันอุบาทว์                        
วันที่ไม่ดี คือ    วันจันทร์    เป็นวันโลกาวินาศ                                                    
วันอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ สามารถทำการได้พอใช้     
                                                 
3. ดูดวงดาว ตนุลัคน์ ในลัคนา ของดวงแม่ จรมาตกภพ อริ,มรณะ,วินาศน์ ไม่ควรให้ฤกษ์ผ่าตัดคลอดในช่วงนี้         
                                              
4. ดูดาว ปุตตะ จรมาตกภพ อริ, มรณะ, วินาศน์ กับดวงแม่ ถ้ามีควรหลีกเลี่ยง การให้ฤกษ์ผ่าตัดคลอดในช่วงนี้ด้วยเช่นกัน                                                            

ดูฤกษ์คลอดบุตร 2555 ฤกษ์ดีวันคลอดลูก ปี2555 คลิก!

    ฤกษ์คลอดบุตรปี 2555 เดือน มกราคม