วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557

เงิน 4ด้าน เรื่องจริงที่น้อนคนใส่ใจ


ความจริงของเงินกับเวลา

          คนบางคน...มีเงิน...แต่ไม่มีเวลา คือ ทำงานหาเงินอย่างเดียว
      

      คนบางคน...มีเวลา...แต่ไม่มีเงิน คือ ไม่มีงานทำ
          

      * คนบางคน...ไม่มีทั้งเงินและเวลา คือ มนุษย์เงินเดือน
 

"แต่ถ้าคุณมีทั้งเงินและเวลา คิดว่าดีไหม?"

ถ้าคิดว่าดี...แล้วงานอะไรละ?

ในหนังสือ Rich Dad Poor Dad (พ่อรวยกับพ่อจนสอนลูก) ของ Robert T. Kiyosaki มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ได้กล่าวว่า 

“ เรากำลังสร้างท่อหรือลากถัง” “ เรากำลังทำงานอย่างหนักหรืออย่างฉลาด”

ในปี 1985 ผู้เขียนและภรรยาจน จนไม่มีบ้านที่จะใช้อยู่อาศัย แต่ตอนนี้เขาสามารถที่จะมีรายได้โดยที่เขาไม่ต้องทำงาน เขาทำได้อย่างไร?

 

“เงินสี่ด้าน” หมายถึงรายได้ที่มาจากงานสี่ประเภท 

E (Employee) = มีรายได้จากเงินเดือน

S (Self - employed)  = มีรายได้จากธุรกิจของตนเอง

B (Business Owner) = มีรายได้จากกิจการที่คุณเป็นเจ้าของ

I (Investor) = มีรายได้จากการลงทุนต่างๆ




เราทุกคนเลือกยืนอยู่บนด้านใดด้านหนึ่งของ “เงินสี่ด้าน” ขึ้นอยู่กับว่า...รายได้ของคุณมาจากอะไร? เรื่องเกี่ยวกับกลุ่มคนสี่ประเภทที่อยู่ในโลกของธุรกิจ และมีอุปนิสัยที่แตกต่างกัน การทำรายได้ของคนทั้งสี่ประเภทแต่ละคนที่ทำงานสามารถที่จะอยู่ได้ในทุกด้านไม่ใช่ด้านใดด้านหนึ่ง และคุณสามารถที่จะหาเงินได้จากเงินทั้งสี่ด้าน การสร้างรายได้โดยวิธีใดก็ตามจากเงินสี่ด้านนี้ ตัวกำหนดของมันคือ ความคิดและความสนใจ ความแตกต่างของเงินสี่ด้านอาจกล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่า การกระทำไม่สำคัญเท่าความคิด ไม่มีด้านใดที่ดีกว่ากัน เพราะแต่ละด้านมีจุดอ่อนจุดแข็งที่แตกต่างกัน

สิ่งที่คิดว่ามีความสำคัญสำหรับพ่อทั้งสอง

พ่อจน                                                       พ่อรวย
ไม่สนเรื่องเงินๆ ทองๆ                                 มีเวลากับครอบครัว
ไม่มีวันรวย                                 มีเงินสำหรับอุทิศเพื่อการกุศล
ไม่มีปัญญาซื้อ                        สร้างงานและความมั่นคงให้ชุมชน
การลงทุนเป็นความเสี่ยง                       มีเวลาและเงินเพื่อดูแลสุขภาพ
เงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต         มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก


“เงินสี่ด้าน คนสี่ประเภท” มีความแตกต่างกันอย่างไร?
 

ลูกจ้าง E (Employee) - งานมั่นคง เงินเดือนดี พร้อมผลตอบแทน
 

คนทำธุรกิจส่วนตัว S (Self - employed) - หาคนดีเหมาะกับงานยากจริงๆ และคนกลุ่มนี้ไม่ชอบจ้างผู้ร่วมงานหรือสอนงานให้คนอื่น เพราะว่ากลัวจะกลายเป็นคู่แข่งในวันข้างหน้า
 

เจ้าของกิจการ B (Business Owner) - ผมกำลังมองหาคนมาร่วมงาน หาคนเก่งที่มีความสามารถมาร่วมงานและชอบแจกจ่ายงานให้ทีมงาน
 

นักลงทุน I (Investor) - คนกลุ่มนี้ไม่ทำงานเพื่อเงินแต่ใช้เงินทำงานแทน 

     ความแตกต่างของเงินสี่ด้าน




Have A Job = มีงานทำ


Own A Job = เป็นเจ้าของงาน


Own A System = เป็นเจ้าของระบบและคนงาน


Own Investment = ใช้เงินทำงานแทน





ความลับของคนรวย 2 ประการ
• OPT – Other People Time (เวลาของคนอื่น)
• OPM - Other People Money (เงินของคนอื่น)
 

ทำไมคนจึงเลือก ความมั่นคง แทนที่จะเลือก อิสรภาพ...

 

สิ่งเหล่านี้ต่างกันอย่างไร?
• ความมั่นคงของงาน คนในกลุ่มนี้มีการศึกษาดี มีประสบการณ์ทำงานมาก และมักปฏิบัติงานได้อย่างดีเยี่ยม คนเหล่านี้จะรู้สึกการขาดความมั่นคงทางการเงิน เพราะถูกสอนให้ทำงานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
• ความมั่นคงทางการเงิน เงินเพียงอย่างเดียวไม่ทำให้เกิดความมั่นคง เพราะทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ความมั่งมีจะถูกเปลี่ยนมือ
• อิสรภาพทางการเงิน สามารถใช้เงินทำงานแทนตนเอง จึงมีอิสระที่จะเลือกทำหรือไม่ทำงานก็ได้ ความรู้ทางด้านการลงทุนยังนำอิสรภาพทางกายมาให้อีกด้วย
 
ด้านซ้ายเสี่ยงกว่า – คนเหล่านี้ยังคงยึดอยู่กับงานและตำแหน่งที่มั่นคง เมื่อร่างกายไม่สามารถที่จะทำงานได้ก็จะทำให้ไม่มีรายได้
ด้านขวามั่นคงกว่า – เพราะถ้ามีระบบที่ดีคุณก็ไม่จำเป็นต้องไปทำงาน แต่ระบบที่ดำเนินอยู่ก็สามารถที่จะผันเงินเข้ามาในกระเป๋าของคุณได้
 


ข้อสรุปของการเป็นเจ้าของกิจการ (Business Owner)
1. ประสบการณ์และความรู้ ถ้าคุณเริ่มจาก “เจ้าของกิจการ” คุณมีโอกาสพัฒนาไปเป็น “นักลงทุน”ที่มีฝีมือได้
2. กระแสเงินสด ถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการ คุณควรจะมีเงินและเวลามาสนับสนุนการลงทุนที่ขึ้นๆ ลงๆ

การที่จะเลือกมาอยู่ทางด้านขวา เป้าหมายของคุณคือการมีระบบและคนทำงานให้คุณ คุณจะสร้างระบบขึ้นมาหรือซื้อระบบคนอื่นมาใช้ก็ได้
ปัจจุบันมี 3 ระบบให้คุณเลือกใช้ดังนี้
1. บริษัทซึ่งคุณสร้างระบบขึ้นมาด้วยตัวคุณเอง
2. แฟรนไชส์ ซึ่งคุณซื้อระบบจากคนอื่น
3. การตลาดแบบเครือข่าย
แต่ละระบบมีข้อดีข้อด้อยต่างกัน ที่เหมือนกันก็คือถ้าคุณทำสำเร็จไม่ว่าจะเลือกระบบใด คุณจะมีรายได้ที่แน่นอน โดยไม่ต้องไปตรอกบัตรทำงานอีกเลย 

การก้าวไปสู่การเป็นเจ้าของกิจการได้อย่างรวดเร็วมี 3 วิธี คือ
1. หาต้นแบบ ต้นแบบคือคนทำงานที่มีประสบการณ์ เคยทำและประสบความสำเร็จมาแล้ว พ่อรวยสอนเรื่องระบบและการเป็นผู้นำไม่ใช่เป็นผู้จัดการ เพราะผู้จัดการมักมองลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชาในแง่ที่ด้อยกว่า แต่ผู้นำต้องรู้จักใช้คนที่เก่งกว่าฉลาดกว่า
2. แฟรนไชส์ วิธีเรียนระบบธุรกิจอีกวิธีหนึ่งคือการซื้อแฟรนไชส์ ซึ่งคุณจะได้ระบบที่ผ่านการรับรองแล้วว่ามี คุณภาพแน่นอนและมีแฟรนไชส์ดีๆ ให้คุณเลือกมากมาย
3. การตลาดแบบเครือข่าย หรือเรียกอีกอย่างว่าการขายตรง หรือเครือข่ายหลายระดับ บางท่านอาจจะบอกว่า เป็นเรื่องหลอกลวงหลังจากได้ศึกษารายละเอียดของระบบหลายรูปแบบจึงมีการเปลี่ยนใจในเวลาต่อมา 


...การที่จะเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่คุณจะต้องมีวิธีคิดที่เปลี่ยนไป พ่อรวยมักเน้นย้ำเสมอว่าอย่าทำงานเพื่อเงิน เราต้องรู้จักสร้างระบบให้มันทำงานแล้วได้เงินถึงจะถูก 
    


ทำอย่างไรจึงจะรวยเร็ว?
เงินสี่ด้านหมายถึงความคิดไม่ใช่การกระทำ การที่จะย้ายจากทางด้านซ้ายมาเป็นด้านขวาเป็นเรื่องของความคิดไม่ใช่การกระทำ ความฉลาดทางอารมณ์ คือการรู้ที่จะจัดการกับอารมณ์ได้ เพราะว่าความฉลาดทางอารมณ์ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก...

  • ความแตกต่างของลูกจ้างและเจ้าของกิจการ
...ลูกจ้างมักคิดว่าทำงานหนักเงินเดือนน้อย และนายจ้างมักคิดว่าทำอย่างไรจึงจะให้ลูกจ้างทำงานมากขึ้น รักองค์มากขึ้น...
  • ความแตกต่างของเจ้าของกิจการและนักลงทุน
...แต่ละฝ่ายย่อมเกิดความขัดแย้งกันได้ เมื่อฝ่ายหนึ่งต้องการเพิ่มเงินในการดำเนินการแต่อีกฝ่ายหนึ่งต้องการเพิ่มเงินปันผล...
  • ความแตกต่างของลูกจ้างและนายทุน
...คนทำธุรกิจส่วนตัวจะเห็นว่าสิ่งที่ตนเองได้รับไม่คุ้มค่ากับแรงงานที่สูญเสียไป ส่วนเจ้าของกิจการคิดว่าเงินที่เขาเสียไปอาจจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน...
  • ความแตกต่างของลูกจ้างและนักลงทุน
...ลูกจ้างทำงานได้รับเงินเดือนและถูกหักภาษี นักลงทุนนำเงินจากธนาคารมาลงทุนและได้รับเงินเป็นจำนวนมากโดยไม่เสียภาษี...

ความกลัวเป็นสิ่งที่หลายคนขลาด หลายคนเรียกหาสิ่งนี้โดยอัตโนมัติ
1. ความมั่นคง แทนที่อิสรภาพ
2. หลีกเลี่ยงกับความเสี่ยง แทนที่ จัดการกับความเสี่ยง
3. อยู่อย่างปลอดภัย แทนที่ อยู่อย่างฉลาด
4. ไม่มีปัญญาทำ แทนที่ จะทำอย่างไร
5. แพงเกินไป แทน คุ้มค่าไหมสำหรับระยะยาว
6. กระจายความเสี่ยง แทน โฟกัส
7. เพื่อนๆ คิดยังไงกัน แทน ตัวเราเองคิดยังไง
 

...สำหรับคนที่จะย้ายจากด้านซ้ายมาเป็นคนด้านขวา สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเดินทางหรือการย้ายด้านไม่ใช่การกระทำ แต่เป็นวิธีคิด กรอบความคิดทำให้เราเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่เคยเป็น...  


...ผมก็เป็นคนหนึ่งคนที่อยากย้ายจาก...ฝั่งซ้ายไปฝั่งขวา เพื่ออิสรภาพและความสำเร็จให็เร็วที่สุด ทำงาน 5 ปี สร้างระบบหาเงินให้เสร็จ แล้วไปใช้ชีวิตที่เหลือ แต่มันไม่ง่ายเลย...เพราะไม่มีเงินทุนและต้องสะสมประสบการณ์ด้านธุรกิจหลายสิบปี แต่มีทางเลือกเดียวและงานเดียวเท่านั้น ที่ลงทุนต่ำและเงินปันผลที่ไร้ขีดจำกัด ที่มีคนสร้างระบบไว้ให้แล้ว เหลือแค่เราเปลี่ยนความคิดและลงมือทำ เมื่อประสบความสำเร็จ บอกลาความจนได้เลย นั่นก็คือ ธุรกิจเครือข่าย...

ธุรกิจเครือข่ายในประเทศไทย มีมากมายมหาศาล เลือกผิดบริษัทอาจจะทำให้เราล้มเหลวและเกลียดธุรกิจนี้ไปเลยก็ได้ 
เราควรจะเลือกบริษัทไหนดีละ? 
1. บริษัทที่มั่นคงต้องทำธุรกิจด้วยเงินสด
2. แนวคิดของผู้ก่อตั้ง สำคัญมาก ผู้ก่อตั้งบริหารเองยิ่งดี ถ้าจ้างคน  อื่นมาบริหารเสี่ยงมาก
3. สินค้า เป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ 
สินค้าที่จำเป็นต้องใช้ คือ สินค้าที่ใช้แล้วหมด ซื้อใหม่ เกิดการซื้อซ้ำบ่อยๆ
สินค้าจำเป็นจึงใช้ คือ อาหารเสริม 
4. แผนธุรกิจ ที่กระจายรายได้ทั่วถึง และเงื่อนไขการจ่ายเงินที่ง่าย
5. ระบบการทำงานที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น