วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

14 สุดยอดแนวทางการบริหารองค์กรของสตีฟ จ๊อปส์

       *วิธีการบริหารองค์กร และตัดสินใจของ “จ๊อปส์” ที่นักบริหารทั่วโลกยอมซูฮก
      
       *การบริหาร - จัดการที่ทำให้คู่แข่งสยบในความสามารถ
      
       *ความเชื่อมโยงและบูรณาการของการบริหาร วิธีคิด ไปจนถึงการออกสินค้า
      
       *14 แนวทางการบริหารที่สำคัญของอัจฉริยะด้านไอที
      
       ในวงการนักบริหารระดับโลก มีนักบริหารที่เก่งฉกาจชนิดหาตัวจับได้น้อยคนยิ่งนัก แต่ในบรรดานักบริหารที่แทบนับนิ้วได้นั้น มีนักบริหารที่เป็นทั้ง CEO และ CIO และ CCO และ COO เพียงคนเดียวเท่านั้นที่คนทุกคนยอมสยบ และยกนิ้วให้ในความสามารถ
      
       คนๆ นั้นคือ สตีฟ จ๊อปส์ (Steve Jobs)
      
       ชื่อของจ๊อบส์ ยังคงเป็นข่าวในหน้าหนึ่งของสื่อมวลชนทุกแขนง ในเว็บไซต์ยักษ์ใหญ่ที่เป็นคู่แข่งของเขา และเป็นบุคคลที่น่ากลัวสำหรับทุกคนในซิลิคอน วัลเลย์
      
       นั่นคงเป็นเพราะว่าจ๊อบส์ เป็นนักบริหารที่สามารถสยบและทำให้คู่แข่งยอมก้มหัวให้ในความสามารถ ความยิ่งใหญ่ของการบริหารจัดการ และทำให้เกิดกรอบแนวคิดใหม่ในสไตล์ของสตีฟ จ๊อบส์ขึ้น
      
       ทำให้คนอยากรู้ว่า แนวทางการบริหารของเขาเป็นอย่างไร
      
       “จ๊อบส์” เคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฟอร์จูนไว้ว่าเขาไม่ได้เป็น CIO แบบดั้งเดิมที่ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการไอที เพราะสไตล์การบริหารของเขาเชื่อมโยงและบูรณาการออกไปมากมาย แม้ว่าคำที่เขาใช้อาจจะไม่ได้ประหลาดหรือเป็นภาษาต่างดาวอย่างที่หลายคนคาดหมาย
      
       สิ่งที่ สตีฟ จ๊อบส์ให้สัมภาษณ์สรุปได้ 14 ประเด็น ดังนี้
      
       1.SWOT Analysis เป็นสิ่งแรกที่เขาดำเนินการเมื่อเข้าไปทำหน้าที่ CIO ในองค์กร ด้วยการค้นหาทะเบียนรายการจุดแข็งและจุดอ่อนขององค์กรและของตนเอง และนำประเด็นที่ค้นพบไปเรียงลำดับความสำคัญ เป็นลายลักษณ์อักษร หลังจากนั้น เขาก็วางแผนและดำเนินการในการกำจัดจุดอ่อนทั้งของตนเองและของกิจการออกไปให้หมดด้วยเทคนิคและเครื่องมือต่าง ๆ ซึ่งถ้าจุดอ่อนเหล่านี้ยังไม่หมดไป เขาจะยังไม่ก้าวไปข้างหน้าและไม่รุกธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างเด็ดขาด
      
       2.ทำการระบุโอกาสทางธุรกิจ หลังจากที่มีความเชื่อมั่นแล้วว่าจุดอ่อนที่ยังคงหลงเหลืออยู่จะไม่ทำร้ายและขัดขวางการเติบโตทางธุรกิจในระยะต่อไป สิ่งที่เขาเห็นว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจสำหรับแอปเปิลคือ ผู้คนมีมือถือกันอย่างขวางขวางก็จริง แต่ผู้คนเหล่าหนี้เกลียดมือถือ เพราะไม่ทำให้คนใช้งานสนุกสนานและมีความสุข ซึ่งตรงกับเป้าหมายเบื้องต้นในส่วนของเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT) เพราะไอทีมีหน้าที่ปรับปรุงคุณภาพการใช้งานของอุปกรณ์ไอทีในจุดที่ยังมีโอกาสเปิดอยู่
      
       แต่การบรรลุเพียงเป้าหมายดังกล่าวไม่เพียงพอ ไอทียังต้องทำให้สภาพแวดล้อมของการใช้งานอุปกรณ์ไอทีเปลี่ยนแปลงไปอย่างสอดคล้องกับโอกาสทางธุรกิจและทำให้สิ่งที่คิดไว้เป็นความจริงในทางปฏิบัติ
      
       3.ปรับปรุงผลิตภาพการทำงาน คุณภาพของผลิตภัณฑ์ เป็นขั้นตอนที่จะเริ่มดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อ ไอทีรู้แล้วว่าผู้คนต้องการอะไร และกลับมาตอบคำถามว่าแล้วไอทีต้องการให้อะไรกับผู้คน
      
       ในฐานะของ CIO จ๊อบส์แนะนำว่าควรจะถามตนเองมากกว่าว่าจะทำอย่างไรจึงจะเพิ่มผลิตภาพ คุณภาพ ศักยภาพของผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยปรับปรุงการใช้งานอุปกรณ์ไอทีของลูกค้าเป้าหมายได้
      
       หนทางที่จ๊อบส์ใช้ในการหาปลายทางของอุโมงค์ความคิดมาจากการมองให้ไกลถึงขอบฟ้า แสวงหาตัวช่วยให้ได้ข้อสรุป อาจจะเป็นเรื่องของการระดมความคิดจากทีมงาน ออกไปพบผู้ค้า เพื่อให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจมากเพียงพอ และตกผลึก
      
       4.ทำการวางกลยุทธ์ไอที หรือกลยุทธ์ทางธุรกิจ ในกรณีของจ๊อบส์ เขาระบุว่าเขาไม่เคยทำการวิจัยทางการตลาดและไม่เคยใช้ที่ปรึกษาที่มีชื่อเสียง แต่อาศัยการดำเนินการไปตามสัญชาติญาณของตนเอง ที่คิดว่าได้วางกรอบและกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
      
       นอกจากนั้น ยังเชื่อว่าการทำวิจัยหรือสำรวจทางการตลาดที่ไม่มีประสิทธิภาพ อาจจะทำให้การดำเนินงาน และการตัดสินใจไขว้เขวจนหลงทางมากกว่า เขาเชื่อในสโลแกนของไนกี้ที่ว่า Just Do It หรือจะทำอะไรก็ลงมือทำเลย
      
       5.การทำในสิ่งที่เป็นความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบของกิจการ ซึ่งในกรณีของแอปเปิลก็คือการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่เหมาะเจาะและสอดคล้องต้องกันระหว่างระบบปฏิบัติการที่เป็นส่วนของซอฟต์แวร์กับส่วนของฮาร์ดแวร์ที่แอปเปิลมีอยู่แล้ว ที่ผลักดันและเอื้ออำนวยให้สามารถปรับปรุง หามุมมองที่เป็นนวัตกรรม คิดแบบนอกกรอบเดิมๆ โดยไม่ต้องไปรอให้ยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์นำทางให้ก่อน
      
       จุดนี้เป็นส่วนที่จ๊อบส์ระบุว่าทำให้แอปเปิลแตกต่างและรุดหน้าไปมากกว่ากิจการรายอื่นอย่าง เอชพี หรือ เดลล์ และผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ที่มักจะรอพัฒนาการทางเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ก่อนเสมอ
      
       ในฐานะ CIO สิ่งที่จ๊อปส์คิดอยู่ตลอดเวลาคือ ทำอย่างไรที่จะทำให้ไอทีเป็นจุดพึ่งพาได้ในการสร้างการเติบโตของกิจการ และเสริมสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขัน เขาสร้างมอตโต้ของตนเองขึ้นมาใหม่ว่า Leveraging IT to Competitive Advantage ซึ่งการที่จะทำให้มอตโต้นี้เป็นจริงได้ เขาจะต้องมั่นใจว่าการตัดสินใจของไอที ได้ผ่านการกลั่นกรองและทบทวนอย่างระมัดระวังแล้ว
      
       6. การวางแผนสร้างทายาทและผลักดันชื่อเสียง ด้วยการสร้างทีมงานทั้งทีมให้เป็นทีมที่ดี แข็งแกร่ง เป็นที่ยอมรับ ไม่ใช่เฉพาะตัวของเขาเองเพียงลำพัง ด้วยการทำให้ทุกคนในทีมเป็นทายาททางธุรกิจของกิจการทุกคน
      
       ด้วยสไตล์การบริหารแบบนี้ จึงไม่ใช่เจ้านายที่ง่าย อะไรก็ได้ ไม่เข้มงวด เพราะหากทำเช่นนั้น จะไม่ทำให้เกิดทายาทที่เข้มแข็งอย่างที่เขาต้องการ
      
       สิ่งที่ทำให้แผนการสร้างและพัฒนาสมรรถนะของทายาททางธุรกิจของเขาประสบความสำเร็จมาจากการที่เขาผลักดันและกดดัน และสร้างความเครียดให้กับทุกคนในทีมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำให้ทุกคนต้องปรับปรุงตัวดีขึ้น
      
       นอกจากนั้น จ๊อบส์บอกว่าเขามีหน้าที่ในการรวบรวมและผลักดันชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายอยู่ในจุดโน้นจุดนี้ขององค์กรเข้ามาให้เป็นภาพรวม เพื่อให้เห็นทิศทางที่จะก้าวต่อไปอย่างชัดเจน และทุ่มเททรัพยากรที่มีไปให้กับโครงการที่เกี่ยวข้องนั้นๆ
      
       ดังนั้น สิ่งที่จ๊อบส์คิดว่าเขาควรจะทำคือการเป็นผู้ประสาน อำนวยความสะดวก แผ้วถางทาง และนำเอาบุคลากรทุกคนมาร่วมแรงร่วมใจกัน ทำงานร่วมกันไปสู้ป้าหมายเดียวกัน
      
       การให้ความสำคัญกับทายาททางธุรกิจของจ๊อบส์ มาจากความเชื่อว่าทุกอย่างต้องดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าใครจะไปใครจะมาก็ตาม ต้องไม่กระทบต่อการเติบโตของแอปเปิล
      
       7.การมุ่งเน้นและใส่ใจ ทุ่มเทไม่ท้อถอย ซึ่งในความหมายของจ๊อบส์คำว่า focus ลึกซึ้งกว่าคนอื่นมาก เพราะไม่ได้หมายความเพียงการเลือกที่จะทำในทางเลือกใดทางเหลือหนึ่ง สำหรับเขา การ focus หมายถึงการยอมสละหรือละทิ้งทางเลือกอื่นๆ อีกนับร้อยนับพันทางเลือกเพื่อเลือกเพียงทางเลือกเดียว ซึ่งเขาระบุว่าเขาจะระมัดระวังขั้นตอนนี้อย่างมาก เพราะหากคิดผิด เลือกผิด หมายถึงความล้มเหลวของกิจการเลยทีเดียว
      
       การเลือกในขั้นตอนนี้คือ การตัดสินใจบนข้อมูลที่มั่นใจว่าคุ้มค่า มีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นจากการทุ่มเท มุ่งมั่นในโครงการนั้นๆ หากยังไม่ชัดเจน หรือเพียงแต่น่าจะดี เขาจะไม่ตัดสินใจตัดทางเลือกอื่นโดยเด็ดขาด
      
       8.การซื้อสมรรถนะส่วนที่ขาดอย่างไม่ลังเล เพราะการที่จะเติบโตและก้าวหน้าไปในอนาคตได้ จะต้องมั่นใจว่ามีสมรรถนะอย่างเพียงพอ และเป็นสมรรถนะที่อยู่ในระดับอัจฉริยะ ไม่ใช่แค่พื้น ๆ
      
       ในการเลือกบรรดาอัจฉริยะมาร่วมงาน เขายังเลือกด้วยการคัดเฉพาะคนที่ตกหลุมรักและอยากจะทำงานกับแอปเปิลจริงๆ อย่างที่เขาใช้คำว่า Fall in love with APPLE ไม่ใช่แค่ผ่านมาแวะดู และไม่เอาจริงเอาจัง
      
       ในฐานะของ CIO เขามีความจำเป็นต้องไว้วางใจในสัญชาตญาณของคนของเขาด้วย บุคลากรแต่ละคนจะได้รับผลตอบแทนตามผลปฏิบัติงาน เฉพาะส่วนที่ทำงานให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ได้ ซึ่งเขาจะให้ความสำคัญเรื่องนี้ในการสรรหา และจะคัดกรองด้วยวิธีการต่าง ๆ ให้ได้เฉพาะคนที่เข้ากับวัฒนธรรมของแอปเปิลได้ ทำงานอย่างมีความสุขได้ และปรับตัวให้เหมาะสมกับงานที่แอปเปิลได้
      
       9. ทำความรู้จักกับโมเดลธุรกิจของกิจการและปรับเปลี่ยนสู่สิ่งที่ดีกว่า การทำความรู้จักในที่นี้ของจ๊อบส์มีความหมายที่ลึกซึ้งมาก เพราะเมื่อเข้าใจแล้วต้องกำหนดวาระระดับยุทธศาสตร์ได้ และมีเป้าประสงค์ที่คงที่ อย่างน้อย 80% ต้องเหมือนกับสัปดาห์ที่แล้ว และดำเนินงานไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้
      
       ความเป็น CIO ทำให้จ๊อบส์ และหน่วยงานไอทีทั้งหมดของเขา ทำความเข้าใจอยู่ตลอดเวลาว่าโมเดลธุรกิจ รูปแบบการดำเนินงานของแอปเปิลเป็นอย่างไร และนำมาทบทวนให้เห็นภาพเพื่อที่จะได้สามารถค้นหาและประเมินโอกาสทางธุรกิจที่จะสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อนำเสนอให้ผู้บริหารพิจารณา
      
       10. การจัดการกับอุปสรรคและสิ่งกีดขวาง ทันทีที่ฝ่ายไอทีตัดสินใจที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับองค์กร หรือปรับรูปแบบและวิธีการกดปุ่มใหม่ด้วยไอเดียที่มั่นใจแล้ว และรู้ด้วยว่าจะส่งผลกระทบต่อทุกอณูในโมเดลธุรกิจและวิธีการดำเนินงานทั่วทั้งองค์กร ซึ่งรูปแบบที่ตกผลึกมาแล้วของไอที คือ “ไอโฟน” ที่ทำให้มือถือเป็นอุปกรณ์ที่ดีกว่าเดิมอย่างมากมาย
      
       บทบาทของ CIO อย่างจ๊อบส์ ก็คือ จะใช้จังหวะไหนที่เหมาะสมที่จะนำเสนอให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือพูดแบบตรงไปตรงมาคือการแทรกแซงโมเดลเดิมๆ ซึ่งแน่นอนผลที่เกิดอาจจะมีหลายคนยอมรับไม่ได้ เช่น การระงับในบางโครงการ หรือเปลี่ยนแปลงด้านทิศทาง
      
       11 การแปลงรูปแบบด้านคุณค่าของลูกค้า เมื่อทุกอย่างภายในองค์กรพร้อมแล้ว การเผชิญหน้าขั้นต่อไปก็คือการเผชิญหน้ากับภายนอก โดยจุดเริ่มต้นก็คือลูกค้า
      
       CIO อย่างจ๊อบส์ จำเป็นต้องเข้าไปช่วยเหลือกิจการภาคธุรกิจต่าง ๆ ที่เป็นลูกค้าภาคธุรกิจให้สามารถแสวงหาวิธีในการใช้ประโยชน์จากไอทีเพื่อสร้างโอกาสเพิ่มในการที่จะดึงดูดลูกค้าของกิจการเหล่านั้นได้มากขึ้น หรือนำเอาธุรกิจไปยื่นต่อหน้าลูกค้าเพื่อตัดสินใจเลือกให้ได้
      
       12.เมื่อผลดำเนินงานมีปัญหา การลงทุนในบุคลากรมักแพงขึ้น ซึ่งสำหรับจ๊อบส์แล้ว การดำเนินงานต้องอาศัยการลงทุนในคน เมื่อมีปัญหาไม่ควรจะลดจำนวนคนที่ลงทุนไป ด้วยการเลิกจ้างเพื่อลดค่าใช้จ่ายและขนาดกิจการ
      
       ในทางตรงกันข้าม กิจการควรจะทำอย่างไรให้แอปเปิลยังเป็นสถานที่ทำงานแห่งแรกที่พวกเขายังอยากจะทำงานด้วย
      
       สำหรับจ๊อบส์แล้ว เขาเป็น CIO ที่ให้ความสำคัญกับการธำรงรักษาทีมและลงทุนในบุคลากรในฐานะสินทรัพย์หลักที่สำคัญที่สุดของกิจการ และเขาเป็นคนหนึ่งที่พยายามทุกวิถีทางที่จะต่อต้านการเลิกจ้างพนักงาน
      
       13.ควรระมัดระวังอย่าให้ความสำเร็จในการสร้างนวัตกรรมและความสำเร็จของกิจการโดยรวม นำความล้มเหลวมาสู่กิจการ
      
       สำหรับจ๊อบส์ การที่แอปเปิลคิดว่ากิจการยังประสบกับความล้มเหลว หมายถึงการพยายามและค้นหานวัตกรรมต่อไป และนำสู่ความสำเร็จมากขึ้น การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ มากขึ้น ลงทุนในเทคโนโลยีมากขึ้น
      
       ที่ผ่านมาบรรดานวัตกรรมต่างๆ ใหม่ๆ ของแอปเปิลมีความล้มเหลวบ้าง และบางนวัตกรรมก็ออกมาได้ดีอย่างเช่น ไอพอด และไอโฟน ที่นำกิจการสู่ความสำเร็จครั้งใหญ่
      
       นั่นหมายความว่า กิจการที่ประสบความล้มเหลว และไม่ประสบความสำเร็จเลย อาจจะมาจากการที่กิจการนั้นกลัวต่อความล้มเหลว จนไม่กล้าตัดสินใจใดๆ เสียมากกว่าปัจจัยภายนอกอื่น เรียกว่าแพ้ใจตัวเองนั่นเอง
      
       14. การทำให้ทีมงานยอมรับและนับถือในตัวเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่จ๊อบส์ประสบกับตนเอง ในการที่เป็นนายที่ทำงานด้วยยาก เข้มงวด กดดัน แต่ทีมงานของจ๊อบส์ยังคงเต็มใจที่จะเสียสละทุกอย่างเพื่อร่วมแรงร่วมใจ และทำให้ผลงานออกแล้วเป็นที่ต้องการ
      
       ลูกน้องของเขาหลายคนบอกว่าคำสั่งของจ๊อบส์ เหมือนกับบัญชาจากพระเจ้า สิ่งที่เขาสร้างสรรค์เหมือนกับการปั้นขึ้นโดยพระเจ้า และมักจะได้รับการเชื่อถือ มั่นใจว่าถูกต้อง และต้องสามารถทำเงินให้กับกิจการได้

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก  
http://www.manager.co.th/mgrweekly/viewnews.aspx?NewsID=9540000130841

ฟังเพลงสนุกมากมาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น